วันนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากบทกวีที่เป็นชิ้นๆ ซึ่งมีการตีพิมพ์ อย่างเป็นทางการ มาเป็นบทกวีระหว่างเพื่อนฝูง ซึ่งไม่เคย ตีพิมพ์หรือเผยแพร่มาก่อนเลยไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ ก่อนจะถึงยุคอีเมล ผมเคยเขียนกวีเมลมาก่อน กวีเมลก็คือจดหมาย ระหว่างกวีกับกวีด้วยกัน ซึ่งก็คือสิ่งที่จะนำเสนอต่อท่าน ณ บัดนี้ (ผมบังเอิญไปค้นเจอสมุดกลอนเก่า เห็นว่าบางอันนั้นพอจะชี้ ให้เห็นถึงอัจฉริยภาพในเชิงกวี ของผมและสหายซึ่งเป็นกวี ร่วมสมัย ได้เป็นอย่างดี จึงขออนุญาตนำเสนอเพื่อความสำราญ ของท่าน โปรดสังเกตว่ากลอนของผมไม่ใช่กลอนธรรมดา แต่ เป็นกลอนกลบท 3-5-8 ซะด้วย แถมกาพย์ก็เล่นสัมผัสอักษร ทุกวรรคด้วย) (ใครคิดว่าง่ายก็ลองแต่งดูสักบทเดียวก็พอ) จ ด ห ม า ย ถึ ง อ้ า ย น้ อ ย --------------------------- ถึงอ้ายน้อยพริกขี้หนูเจ้าหมูเนื้อ กูเซ็งเหลือที่มึงเลวทำเหลวไหล นัดตรุษจีนแต่เจ้าบอกเศร้าใจ ต้องกลับไปบ้านป่าว่าจำเป็น เอาเถิดหมูเมื่อไม่เต็มใจม่อย กูจะคอยขบเคี้ยวและเคี่ยวเข็น โอกาสดีคงได้(มี)ใครกระเด็น ถูกเชือดเล่นหมดรูปจนซูบลง เรื่องที่คิดคบค้ามาขุขันธ์ จงเลือกสรรศุกร์เสาร์เจ้าอย่าสง- สัยเลยเพื่อเพลิดเพลินเดินในพง ป่าดิบดงดินแดงแล้งกันดาร อาจไปเที่ยวถึงฐานเทือก"บรรทัด" หรือแค่หยัดยืนยิ้มอยู่ริมย่าน หากอย่านิ่งอยู่เนิ่นจนเกินนาน จะเสียการงานกูรู้รู้กัน บ้านใหม่กูดูกลับจะคับ(แคบ)กว่า เคยอยู่มาก่อนเมื่อกูเชื่อมั่น โอกาสพี้ตามสภาพจงทราบพลัน คงไม่ดันลงแดงให้กูดู กูดูเหมือนชอบหม่ำหมูรัมมี่ ที่เล่น,มีมาแหม แล้วแต่หมู เล่นทีไรกูรับทรัพย์คงรู้ ชอบเล่นอยู่อย่างยิ่ง จริง-ยืนยัน เรื่อง"โอ๋"พิโธ่เอ๋ย เมื่อก่อนเคยจุมพิตครรภ์ บัดนี้หยุดจำนรรจ์ เสียงเสนาะเพราะหนักหนา พบฑิตปริญญาโท ดีกรีโก้จาก'เมกา เลิกรักและลืมลา ไม่มีเหลือเยื่อใยเลย จนกูได้หวนกลับ ไปแค้นคับกับคนเคย- คุ้นอันวันใดเอย "หน่อย"จะเผยเอ่ยรักพลัน แต่หน่อยก็คือหน่อย แกร่งใช่ย่อยคงยืนยัน "ไม่รัก"ให้กูรัน- ทดทวีแทบวางวาย อยู่มาคิดหาเมีย ให้ลืมเสียซึ่งกรวดทราย อยู่เดียวแสนเปลี่ยวดาย น่าหาเด็กมาลองดู แต่คิดอย่างรอบคอบ แม้ชมชอบอยากชื่นชู ต้องหยุดยั้งใจอยู่ เพราะภาระนั้นเหลือหลาย จำใจจะต้องจบ จงทวนทบคำท้าทาย เปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย กลับเชียงรายไว้ทีหลัง/
จ ด ห ม า ย จ า ก อ้ า ย น้ อ ย ----------------------------- (บทกวีของสมีน้อย นับเป็นบทกวีหายาก เพราะมันเขียนน้อย) สารเพื่อนเรารับแล้ว ลืมตน ปล่อยปละมาจนครบ มาสอ้า เพื่อนเอยเพื่อนคงฉงน ฉงายจิต ไยจดหมายเงียบว้า วุ่นว้านานวัน พนมมือขอโทษด้วย สหายรัก เพราะเหตุว่างานหนัก ระยะนี้ บทนิพนธ์ที่ถามทัก มิอยาก คิดเฮย ประโยชน์ใดก็เปล่าปลี้ ปล่อยทิ้งเถอะสหาย น้ำท่วมทุ่งนา เวิ้งว้างเจิ่งนอง โอ้อกชนผอง ร้องร่ำฟูมฟาย คนยากนับล้าน พลัดบ้านเรือนตาย ไร่นาวัวควาย หายวับกับชล หากคิดจะเขียนบทนิพนธ์ จงเขียนเพื่อคน จนจนที่ทุกข์ทับทวี หากคิดจะเขียนบทกวี จงเขียนเพื่อชี้ ช่องโหว่ของความยุติธรรม หากคิดจะเขียนลำนำ จงเขียนด้วยคำ ที่เปล่งแทนปากปวงประชา นานนานทีพี้แล้วเขียนเจียนไม่จบ ตามประสานักรบซึ่งหลบหน้า ฝีมือกลอนอ่อนหัดอ่านขัดตา ขออภัยสหายข้า ขออภัย แต่คราวหน้านัดหมายกันไว้แล้ว สองเพื่อนแก้วจะมานี่หลังปีใหม่ หวังจะมีวันหนึ่งซึ่งร่วมใจ กันจุดไฟแห่งลำนำคำกวี/