ฤ Area: THAI_ECHO ECHO ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 6077 Rec'd Local Date: 20 Nov 99 10:09 From: Puntudis Thong Read: Yes Replied: No To: Pinit Patisung Mark: Subj: Re: 80/20 Rule ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ PP> อยากทราบเกี่ยวกับ 80/20 rule ของทางคอมพิวเตอร์หน่อยครับ PP> เท่าที่อ่านมา มีหลายกระแส ทั้งด้านการออกแบบ และการใช้งาน PP> เกี่ยวกับการออกแบบนี่ผมไม่ get นัก แต่เกี่ยวกับการใช้งานคือ PP> ร้อยละ 80 ของผู้ใช้งานใช้ฟีเจอร์ของ sw เพียง 20% PP> นอกจากนี้มีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ครับ กฏ 80/20 .. เป็นกฏทั่วไปครับ (universal) ไม่ใช่กฏทางคอมพิวเตอร์ และผมใช้อยู่ประจำ .. คนที่เข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง จะมีความสามารถ ในการทำงาน ในการแก้ปัญหา และอื่นๆที่น่าทึ่งอีกมาก (ขอคุยหน่อยเหอะ :-D) กฏนี้หลักใหญ่คือ .. *** ถ้าอะไร (anything) สองอย่างมีความสัมพันธ์กัน โดยที่"อะไร"ในสิ่งแรก ก่อให้เกิด"บางอย่าง"ในสิ่งที่สอง เราจะพบว่า 80% ของ"บางอย่าง"นั้น เกิดจาก"อะไร" เพียง 20% *** กฏรองคือ 1. ตัวกฏ มีลักษณะเป็น recursive ข้อสังเกตุคือ ในทางปฏิบัติทั่วๆไป recursive สามารถทำได้ เพียง 3rd degree (loop) เท่านั้น พระพุทธเจ้า สามารถทำได้ถึง minimal level (เดี๋ยวว่าต่อ) 2. เหตุ และ ผล สามารถสลับที่กันได้ 3. ส่วนต่าง 20/80 เป็นความสูญเปล่า มาดู"ตัวอย่าง"นะครับ ตัวอย่างแรก .. ที่ถามมานั่นแหละครับ Software มีความสามารถ 100 อย่าง แต่งานทั่วๆไป ต้องการเพียง 20 อย่าง งานทั่วๆไป คือ 80% ของงานที่คนทำ .. เอาแค่ตรงนี้ก่อนนะ .. จะเห็นได้ว่า ใน recursive degree 1st งาน 80% สำเร็จได้ด้วยความสามารถแค่ 20% ของ software ที่ 2nd degree คือ 80/20 ของ 1st degree งาน 80% ของ 80% สามารถเสร็จได้ด้วย 20% ของ 20% s/w นั่นคือ เราใช้ความสามารถแค่ 4% ของ s/w เพื่อจัดการ 64% ของงานเรา ที่น่าตกใจคือ จะพบว่า ที่ 3rd degree .. งานเรา 51% สามารถทำให้ เสร็จได้ เพราะ 0.8% ของ s/w! เมื่อมองย้อนทวนไป จะเห็นได้ว่า .. 50% ของเครื่อง PC ถูกนำไปใช้ เพื่อเป็นเครื่องพิมพ์ดีด! ด้วยโปรแกรม MS Word .. หรืออีกนัยหนึ่ง s/w ที่น้อยกว่า 1% ควบคุมลักษณะการใช้งาน PC 50% ลองเข้า net ดู .. จะเห็นว่า s/w มีนับพันๆชนิด หมื่นๆโปรแกรม ใช้งานกันจริงๆ ไม่กี่สิบชนิด ..ไม่กี่ร้อยโปรแกรม (1%) ... กฏย่อย ข้อที่ 1 ... .......................................... ลอง click ปุ่ม start/find/file/advance แล้วให้ค้นหา แฟ้ม *.* .. จดจำนวน file ทั้งหมดที่มีอยู่ใน HDD ได้เท่าไหร่ คำนวน 20% ไว้ จากนั้น click ที่ column file size เพิ่อให้มัน sort ขนาด file ลองนับ file ให้ได้จำนวนเท่าที่คำนวนไว้ แล้วบวกขนาด file เหล่า นั้นเข้า เทียบกับพื้นที่ HDD ที่ file **ทั้งหมดใช้ดู จะพบว่า พื้นที่ HDD 80% .. ถูกยึดครองด้วย file จำนวนแค่ 20% เท่านั้น! และที่ 2nd degree .. จะพบว่า file ไม่กี่ file .. 4-5% ที่กวาดพื้นที่ HDD ไป 2/3 ยิ่ง HDD ใหญ่ๆ 8 GB แล้วกัน ที่มี file เป็นพันๆ จนเหลือที่ 200-300 MB ..ลองดูได้เลยครับ .. file แค่ 1% ที่ยึดครอง HDD space ไป 50% อีกตัวอย่างที่เจ็บมากๆคือ โปรแกรมในเครื่องที่ลงไปเป็นสิบๆอย่าง .. เราจะใช้แค่ 20% เอง อีก 80% .. "เผื่อๆไว้" .. ที่เผื่อๆไว้นั่น .. 2/3 ของทั้งหมด เราใช้บางครั้งเท่านั้น 1/2 ... ไม่เคยใช้เลย :-) ลงเป็นขยะไว้เฉยๆเท่านั้นเอง ... กฏย่อยข้อที่ 3 ... .......................................... ยิ่งบริษัท .. ตอนนี้ ยิ่งพยายามกันแทบตายแล้วครับ ว่า อย่างแรก ไอ้เจ้า 80% return profit เนี่ย มันมาจาก 20% effort ตรงไหน อย่างที่สองคือ 80% expense เนี่ย ใครก่อมันขึ้นมา ;-D และ (1) + (2) คือ 20% profit เนี่ย มันมาจาก 80% expense หรือเปล่าหว่า? และ (1) + (2) + กฏย่อยข้อสองคือ 20% expense สามารถ ก่อให้เกิด 80% return profit ได้หรือเปล่าหว่า Nissan vs GM (มั้ง?) ตอน merge บริษัทใหม่ๆ .. ทาง GM ไปดูงานที่ Nissan พบว่า งานที่ทางตัวเองต้องจ้างคนเป็นร้อย ...เพื่อควบคุม ดูแลเรื่องรั่วไหล ผิดพลาด ของฝ่ายบัญชี ปรากฏว่างานเดียวกันแหละ nissan จ้างคนทำแค่ 4-5 คนเอง! ทาง GM งงเป็นไก่ตาแตก ถามว่า ควบคุมได้ยังไง? nissan บอกว่า ควบคุมไปทำไม? ในเมื่อมันรั่วไหลไป ปีนึงๆไม่กี่สิบ ล้านเอง .. ทาง GM หนะ .. คุมอยู่ แต่ค่าควบคุม__ปีละเท่าไหร่__? GM กลับมาวิเคราะห์ดูมั่ง .. ยุบแผนกแ_่มไปเลย บอกปล่อยรั่วไหล ดีกว่า เพราะค่าใช้จ่ายแผนกนี้ ปีนึงๆ เป็นร้อยๆล้าน! จากการวิเคราะห์ พบว่า 100% expense ในการมีแผนกนี้ สร้าง 100% profit ก็จริงอยู่ แต่ 20% ของ profit มี 80% expense! ในขณะที่ 50% profit (ที่ค้นหา มาได้) มีค่าใช้จ่ายแค่ 5% เอง (3rd degree) ยุบแผนกทิ้ง เอา 5% นั่นไปขึ้นกับอีกแผนกนึง ประหยัดค่าใช้จ่าย ได้อื้อ ถึงจะมีรั่วไหลไปบ้างก็เหอะ ถัวๆแล้ว รายได้เพิ่ม .......................................... ที่ผมค้างไว้คือ .. ใน 84,000 พระธรรมขันธ์ ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ อธิบายซะละเอียดยิบ เรื่องราวสารพัด อะไรนั่น reduce ลงมาซัก 5th degree จะพบว่า สาระสำคัญ 0.032% ของธรรมะมีไม่ถึง 30 อย่างเลย! ถ้า recursive อีก 3 หน .. จะพบว่า สาระสำคัญๆที่มีสอน .. ทีแค่ 3 อย่างเอง - สรรพสิ่งทั้งหลาย ไม่เที่ยง - ผลทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่เกิดแต่เหตุ ถ้าดับเหตุ ผลย่อมไม่เกิด - ท่านทั้งหลาย จงถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท วิธีปฏิบัติ ที่สอนกันเป็นสิบๆร้อยๆอย่าง เอาเข้าจริงๆ ที่พระพุทธองค์ท่านสรรเสริญ ว่าเป็นสุดยอด เป็นทางดับเหตุ ดับทุกข์ได้แท้จริง เหลืออย่างเดียว .. อาณาปาณสติ ทำง่ายๆ (20% degree ที่ 8) ตรงนี้ให้ดูกฏย่อยที่สองด้วย เมื่อเหตุและผลสามารถสลับที่กันได้ ถ้าเล็งดีๆ มีปัญญา "...คิดก่อนทำ... " เราสามารถลงแรง ทุ่มความพยายาม ความสามารถ ฯลฯ แค่ 20% ของพลังที่เรามี เพื่อทำงาน ไปได้ถึง 80% หรือถ้าเล็งดียิ่งๆขึ้น เล็งแม่นแล้ว เริ่ม**ถูกจุด** เราจะใช้"แรง" แค่ 0.8% เพื่อให้งานเสร็จได้ถึง 50% ที่เหลืออีก 50% ทำให้มันเป็น 100 ซะ แล้ว"เล็งใหม่" ถ้าเล็งถูก จะพบว่า เราใช้แรง (ใหม่) 0.8% เพื่อให้งาน (ที่ทำเป็น 100% ใหม่) เสร็จ ไปอีก 50% แต่เนื่องจากตัวเรา เป็นตัวเรา .. แรงเราใช้สองครั้งแค่ 1.6% แต่งานจะเสร็จไปถึง 50% (จาก 100% เดิม) + 25% (50% ของ 100% ใหม่ ที่มาจาก 50% เดิม) .. หรือ 75%! ทำอะไรที่มันยากๆไปทำไม? :-) พระพุทธเจ้าท่านเล็งไปเล็งมา เล็งแม่นเป๊ะ! ระดับรู้ว่าเหตุเพราะ ผีเสื้อตัวหนึ่งที่จีนขยับปีก ทำให้เกิด supernova ที่ crab nebula ได้ .. ท่านจึงบอกว่า ไม่ต้องไปพยายามอะไรมาก "...ตถาคตบัญญัติไว้ว่า ในร่างกาย ที่กว้างศอก ยาววา หนาคืบนี้คือโลก นี้คือธรรม.." และบอกว่า ไม่ต้องลำบาก มากนัก ;-) แค่ "..นั่งนิ่งๆ ดูลมหายใจเข้าๆออกๆ อย่าไปยึดมั่นถือมั่น ก็พ้นทุกข์ได้.." ง่ายดีออกเนาะ :-D ... คือบทเพลงอันเลอค่าแห่งฟ้าดิน... -!- FMail/386 1.02 ! Origin: FALCON BBS 381-2632 FALCON G2 http://www.falconbbs.com (6:608/4)